วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554

น้ำส้มสายชูจากสับปะรดทานเพื่อสุขภาพ

อยู่่บ้านว่างๆมาลองทำน้ำส้มสายชูจากเปลือกสับปะรดจะได้น้ำส้มแท้บริสุทธิไม่มีสารเคมีเจือปนและยังช่วยให้สุขภาพดีขึ้นเพราะว่าในน้ำส้มสับปะรดนั้นช่วยแก้ปัญหาท้องอืดท้องเฟ้อได้ด้วย


วิธีทำนี้ได้มาจากโครงงานวิทยาศาตร์ลองทำดูครับ
เป้าหมาย
สามารถผลิตน้ำส้มสายชูอย่างง่ายจากเปลือกสับปะรดได้


เครื่องไม้ เครื่องมือ

  1. เปลือกสับปะรด 1 กิโลกรัม
  2. น้ำตาลทราย 300 กรัม
  3. ยีสต์ทำขนมปัง 2 ช้อนชา
  4. หม้ออะลูมีเนียม
  5. เตาไฟ
  6. ขวดโหลปากกว้าง (สำหรับใส่เปลือกสับปะรด)
  7. ถุงพลาสติกพร้อมยางรัดปิดปากขวดโหล

น้ำหมักชิวภาพปุ๋ยชั้นเยิ่ยมจากสับปะรด(EM)

สวัสดีครับเพื่อนๆพี่ๆชาวเกษตรกร วันนี้ผมจะนำสาระเกี่ยวกับผลผลิตที่ได้จากสับปะรดมาฝากครับ และเรื่องทีจะนำมาเสนอวันนี้คือ "น้ำหมักชีวภาพหรือ EM" เป็นหัวเชื้อชั้นเยี่ยมเลยล่ะครับที่สวนสับปะรดของผมใช้อยู่ครับช่วยประหยัดเงินได้เยอะเลยทีเดียว มาดูวิธีทำกันเลยดีกว่าอาจจะไม่เหมือนกับคนอื่นนะครับเพราะเป็นสูตรที่สวนเองครับส่วนผสมอาจจะไม่มากเหมือนสูตรอี่นครับแต่ก็ได้ผลดี(เน้นสับปะรดครับใส่เยอะๆ)

ส่วนผสมสำหรับ 1 ถัง 200 ลิตร
กากน้ำตาล     20 กก.
สับปะรด         60 กก.

วิธีทำน้ำหมักชีวภาพ
นำสับปะรดมาสับให้เป็นชิ้นเล็กๆ(ไม่ต้องปอกเปลือกครับ)หลังจากนั้นเทกากน้ำตาลลงไปแล้วคนให้เข้ากันสังเกตุดูว่าส่วนผสมเข้ากันดีแล้วก็ปิดฝาได้เลยครับ

ข้อแนะนำการทำน้ำหมักชีวภาพ
ต้องหมั่นเปิดฝาตรวจเช็คว่าน้ำหมักเราบูดรึป่าว ช่วง2อาทิตย์แรกๆพยายามเปิดดูถี่หน่อยอาจจะเป็น 2-3 วันครังเพื่อให้แน่ใจว่าน้ำหมักของเราไม่บูดถ้ามีกลิ่นบูดเหม็นเปรี้ยวให้เติมกากน้ำตาลลงไปแล้วคนให้เข้ากันหลังจากนั้นก็กล็บมาเช็คดูอีกที ถ้าน้ำหมักไม่มีกลิ่นเหม็นบูดเหมือนเสร็จไป50เปอร์เซ็นแล้ว หมักไว้ 6-12 เดือน เป็นอันใช้ได้ครับ

วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2554

หน้าใสผิวสวยด้วยสับปะรด

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
สาวๆท่านใดอยากผิวสวยหน้าใสกิ๊กเอาใว้เช็คเร็ทติ้งมาทางนี้ครับวันนี้มีเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสับปะรดมาฝากกันมีทั้งคลีมและโลชั่นเลือกใช้กันได้ตามอัธยาศัยมาดูสูตรแรกกันเลย

ครีมกระชับผิวลดความมัน (สำหรับสาวผิวมัน)

ส่วนผสมครีมกระชับผิว
เนื้อสับประรด 1/2 ถ้วย
ไข่ขาว            1 ฟอง
น้ำผึ้ง              2 ช้อนโต๊ะ
นมสด             3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำครีมกระชับผิว
นำส่วนผสมทั้งหมดมาปั่นรวมกันให้ละเอียดจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน

วิธีใช้ครีมกระชับผิว
ทาครีมสับปะรดทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีล้างออกด้วยน้ำอุ่น ตามด้วยน้ำธรรมดา

คำแนะนำการใช้
ควรใช้ครีมสัปดาห์ละครั้ง ผิวหน้าจะขาวเนียนใสกิ๊ก รูขุมขนของคุณจะกระชับจนรู้สึกได้ และน้ำมันส่วนเกินจะลดน้อยลง เวลาที่ทาแป้งหรือแต่งหน้าจะติดทนนานกว่าเดิม

ครีมขัดผิวขัดตัว (สำหรับสาวทุกสภาพผิว)
ส่วนผสมครีมขัดตัว

เนื้อสับปะรดสด 1 ถ้วย
ขมิ้นชันผง         2 ช้อนชา
รำข้าว                3 ช้อนโต๊ะ
น้ำผึ้ง                 1 ช้อนโต๊ะ
นมสด                1/2 ถ้วย

วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2554

สรรพคุณทางยาของสับปะรด

ข้อมูลจาก http://www.kamolonline.net
คุณค่าของสับปะรด
'สับปะรด' หวานฉ่ำ มีคุณค่าอย่างไร..
สับปะรด เป็นผลไม้ธรรมดา ๆ ที่เราสามารถหาซื้อรับประทานได้ง่าย เนื่องจากออกผลตลอดทั้งปีไม่ต้องรอตามฤดูกาล หากรับประทานสด ๆ ก็ทำให้เย็นฉ่ำดับร้อนได้ หรือคุณแม่บ้านบางคนนิยมนำไปปรุงอาหารก็ให้รสชาติที่ดีทีเดียว นอกจากนี้คุณผู้อ่านทราบหรือไม่ว่าสับปะรดยังมีคุณประโยชน์อีกมากมายที่เราไม่ควรมองข้าม คุณปฏิมา พรพจมาน นักกำหนดอาหาร โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ให้ความรู้ว่า ในสับปะรดมีสารอาหาร  ที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายหลาย  ชนิด โดยสารอาหารที่มีมาก ก็ได้แก่ แมงกานีสและวิตามินซี ซึ่ง แมงกานีสเป็นเกลือแร่ตัวหนึ่งที่ร่างกายต้องการและขาดไม่ได้ เนื่องจากช่วยในการสร้างการเจริญเติบโตของร่างกายและควบคุมการทำงานของเอนไซม์หลายชนิด รวมทั้งการเผาผลาญโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมันให้เป็นพลังงานของร่างกาย ส่วนวิตามินซีช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกัน เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถป้องกันโรคหัวใจ ความดันและโรคเหงือกได้ นอกจากนี้ยังมีสารตัวหนึ่งชื่อ “โบรมีเลน” (Bromelain) ซึ่งพบเยอะมากในสับปะรด ช่วยในการย่อยโปรตีนในเนื้อสัตว์ คุณแม่บ้านจึงนิยมนำมาหมักเนื้อสัตว์ซึ่งจะทำให้เนื้อนุ่มน่ารับประทาน และยังเป็นสารที่ช่วยลดอาการอักเสบต่าง ๆ ให้ร่างกายอีกด้วย ส่วนวิตามินบี 1 และวิตามินบี 6 ซึ่งมีอยู่ในสับปะรดจำนวนไม่มาก แต่ก็มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินบี 1 ช่วยในเรื่องของการป้องกันอาการเหน็บชา เหนื่อยง่าย และวิตามินบี 6 ช่วยให้การทำงานของระบบประสาท และเม็ดเลือด หากร่างกายขาดจะลดการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ช่วยป้องกันโรค ทั้งนี้สับปะรดเป็นผลไม้ที่ช่วยดับความร้อนยังมีสรรพคุณทางยาในการช่วยขับปัสสาวะอ่อน ๆ และมีกากใยอาหารที่ช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย อย่างไรก็ตามหากเรารับประทานสับปะรดเพียงอย่างเดียวโดยไม่ดูแลสุขภาพและไม่ออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย คุณค่าจากสับปะรดก็จะไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเลย ที่สำคัญการบริโภคสับปะรดไม่ใช่จะมีเฉพาะประโยชน์อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีข้อเสียด้วยเพราะ สับปะรดดิบมีฤทธิ์เป็นยาถ่ายอย่างแรง ถ้าเราบริโภคในปริมาณที่มากจนเกินไปอาจส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพร่างกายได้.

วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ประโยชน์ของเอ็นไซม์ที่มีอยู่ในสับปะรด

รูปภาพจากอินเทอร์่เน็ต
คุณเคยมีอาการอย่างนี้รึป่าวหลังจากเวลาที่คุณมีความสุขกับการทานอาหารมากจนเกินไปจึงทำให้มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อกระสับกระส่ายอึดอัดไปหมดทำให้เกิดอาการหงุดหงิด อาการเหล่านี้มีทางช่วยได้โดยวิธีง่ายๆคือการกินครับกินเข้าไปอีก สิ่งที่ผมบอกให้กินนั้นคือสับปะรดนั่นเอง ทำไมสับปะรดถึงช่วยได้? เพราะว่าสับปะรดนั้นมีสารเคมีอยู่ตัวหนึ่งที่ชื่อว่า "เอ็นไซม์" สารเคมีตัวนี้จะทำหน้าที่ช่วยย่อยอาหารที่คุณรับประทานเข้าไปอย่างมากได้เ็ร็วขึ้น สับปะรดเป็นผลไม้ที่ทานง่ายมีรสชาติหวานอร่อยหาซื้อได้ง่ายถ้าไม่รู้จะซื้อที่ใหนผมขอแนะนำ สับปะรดไร่ม่วงครับ ของดีราคาถูก

วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2554

โชว์หุ่นสวยช่วยได้ด้วยน้ำสับปะรดปั่น

คุณสาวที่อยากหุ่นดี หุ่นสวย มาลองอ่านสาระดีๆที่เรานำมาฝากกันครับ แน่นอนครับในสายตาของหนุ่มๆส่วนมากจะมองสาวๆที่ส่วนสัดก่อนเลยเป็นอันดับแรก เพราะว่าถ้ามองในระยะ 100 เมตรไม่มีหนุ่มๆคนใหนหรอกครับที่จะมองหน้าตาคุณสาวๆเป็นอันดับแรกก่อนส่วนสัดที่สวยงาม
ดังนั้นเรืองที่จะนำเสนอในวันนี้คือ น้ำสับปะรดปั่นกับกล้วยสุก
มาดูส่วนประกอบกันก่อน
1. น้ำสับปะรด  200 มิลลิกรัม
2. กล้วยสุก      1      ผล( กล้วยน้ำว้าหรือกล้วยหอมก็ได้)
3. น้ำผึ้ง           1      ช้อนโต๊ะ
4. มะพร้าวขูด   1      ช้อนโต๊ะ
นำส่วนผสมทั้งหมดมาปั่นรวมกันเป็นอันเสร็จน้ำสับปะรดปั่น
คุณค่าที่ได้จากน้ำสับปะรดปั่นแก้วนี้
  - สับปะรดช่วยให้รสชาติอร่อยและยังช่วยขับน้ำและสารพิษในร่างกาย
  - กล้วยสุกมี วิตามิน และทำให้อิ่มได้นาน
จากคุณสมบัติที่กล่าวมาอีกอย่างที่สำคัญอย่าลืมออกกำลังกายนะครับจะได้หุ่นดี หุ่นสวย ให้หนุ่มๆเผลอมองจนไม่กระพริบสายตา

วันอังคารที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2554

มายืดความสาวใสให้ยาวนานด้วยสับปะรด

สวัสดีครับวันนี้จะมานำเสนอเกล็ดความรู้สำหรับคุณสาวๆกัน แน่นอนครับสาวๆคนใหนก็ไม่อยากจะอยู่ใกล้ความแก่และรอยเหี่ยวย่นที่มาพร้อมกับการเวลา เรามีวิธีง่ายๆที่จะจัดการกับปัญหาเหล่านี้เราจะใช้สับปะรดนี่แหละมาช่วยยับยั้ง( เป็นสับปะรดไร่ม่วงได้ยิ่งดีครับ เหอะๆ ขอโปรโมทนิดนึง )

   ชั้นตอนที่1. นำสับปะรดมาผ่าเอาเนื้อมาคั้นเอาแต่น้ำกากก็แยกที้งไป
   ชั้นตอนที่2  เมื่อได้น้ำสับปะรดแล้วนำมาชโลมให้ทั่วไบหน้ายกเว้น   รอบดวงตาและริมฝีปาก
   ชั้นตอนที่3  หลังชโลมน้ำสับปะรดทิ้งใว้ 15-20 นาที แล้วล้างหน้าน้ำ ด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด
แค่ 3 ขั้นตอนง่ายๆคุณสาวๆก็จะมีใบหน้าที่ ขาว สวย เด้ง และลดริ้วรอยจุดด่างดำต่างๆ
วิธีนี้จะได้ผลดีกับสาวๆที่ผิวหน้ามัน แต่สาวๆที่ใบหน้ามีสิวหรือมีแผลแนะนำให้สิวหรือแผลตรงใบหน้าหายก่อนนะครับถ้าใช้แล้วอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้ครับ

วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2554

วิธีเลือกสับปะรดแบบฉ่ำและแบบกรอบ

สวัสดีครับวันนี้จะนำสาระวิธีการเลือกสับปะรดกันครับ สับปะรดนั้นมีให้เลือกอยู่ 2แบบใหญ่ๆครับ
   แบบที่1 สับปะรดแบบฉ่ำ
      วิธีเลือกเราจะใช้วิธีเคาะหรือดีดเพื่อฟังเสียงไม่มีเครื่องมือพีเศษใช้นิ้วกับหูเท่านั้นครับแต่ต้องเป็นคนช่างสังเกตุหน่อยนะครับเพราะเสียงของสับปะรดฉ่ำและไม่ฉ่ำเสียงจะไม่ค่อยแตกต่างกันครับสำหรับมือใหม่หัดเคาะ เสียงของสับปะรดที่ฉ่ำนั้นจะดัง "แปะๆ เสียงจะดังแน่นๆ" ทีเป็นเช่นนี้เพระว่าปริมาณน้ำในลูกสับปะรดมีมากเปรียบเทียบได้เหมือนกับลองเอาลูกโป่งมา2ลูก ลูกที่1ใส่น้ำเข้าไปและลูกที่2เป่าลมเข้าไปแล้วลองดีดดูครับเสียงที่ออกมาจะไม่เหมือนกันเรวใช้วิธีนี้มาเป็นวิธีเลือกสับปะรดที่ฉ่ำและไม่ฉ่ำครับ
  แบบที่2 สับปะรดแบบไม่ฉ่ำ(แบบกรอบ)
     สำหรับวิธีที่2นั้นเสียงทีได้จะต่างกับเสียงแบบที่1ครับเสียงของแบบที่2จะดัง "โปะๆ" ลักษณะเหมือนข้างในจะกรวงเพราะว่าสับปะรดลูกที่ไม่ฉ่ำนั้นปริมาณน้ำจะน้อยสังเกตุง่ายๆครับสับปะรด2ลูกที่ขนาดเท่าๆกันลูกที่ฉ่ำจะหนักกว่าลูกที่ไม่ฉ่ำครับ
ถ้าอ่านแล้วยังคิดไม่ออกว่ามันเป็นยังงัยลองแวะมาที่ร้านสับปะรดบ้านไร่ม่วงได้ครับรับรองไม่ผิดหวังครับ

ปล.วันหลังจะมีคลิปการเลือกสับปะรดมาฝากครับ

วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ประโยชน์ของสับปะรด

บทความจาก http://www.phuketjournal.com/pineapple-2524.html


“สับปะรด” เป็นผลไม้ที่หารับประทานได้ตลอดทั้งปี มีประโยชน์ต่อสุขภาพจนไม่ควรมองข้าม เรามาทำความรู้จักประโยชน์ของสับปะรดกันดีกว่า
1. ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง รับประทานสับปะรดวันละหนึ่งชิ้นจะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินซี ที่สำคัญคือวิตามินช่วยในการทำงานของเนื้อเยื่อ และยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายติดเชื้อและต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ การรับประทานสับปะรดวันละหนึ่งชิ้นจึงเป็นการเพิ่มแรงต้านทานโรคให้แก่ร่าง กาย แต่ในผู้ที่มีเลือดจางไม่ควรกินมากนัก
2. ช่วยในการย่อยอาหาร สับปะรดมีกากใยอาหารมาก ซึ่งมีความสำคัญกับการย่อยอาหาร และเป็นที่รู้กันอยู่ว่ากากใยอาหารช่วยลดโคเลสเตอรอล ควบคุมน้ำตาลในเส้นเลือด และช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็ง
3. ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี สับปะรดมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ เช่น วิตามินซี เบต้าแคโรทีน และแมงกานีสที่จะช่วยป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระที่จะทำลายโครงสร้างของ เซลล์ และอาจทำให้เป็นโรคหัวใจและอัมพฤกษ์ อัมพาต นอกจากนี้ สารแอนตี้ออกซิแดนท์ยังมีความสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอีกด้วย

วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เลือกซื้อสับปะรดไร่ม่วงอย่างไร..? ไม่ผิดหวัง

วันนี้จะมาแนะนำการเลือกร้านที่จะซื้อ "สับปะรดไร่ม่วงของแท้ ( ช่วงหลังมานี้มีพวกแอบอ้างไปเอาสับปะรดมาจากแหล่งอื่นเข้ามาขายในหมู่บ้านไร่ม่วงเอามาย้อมแมวว่างั้น)" อันดับแรกเลยต้องสังเกตุที่หน้าร้านครับจะมีป้ายผ้าขนาดประมาณ 2x4 ฟุต ห้อยอยู่ตรงหน้าร้านดังรูป


และอยากให้แน่ใจยิ่งกว่าทางร้านต้องมีสับปะรดให้ชิมอันนี้ชัวว์ครับคอนเฟริมของแท้แน่นอน

สับปะรด มาจากใหน? | Pineapple come from...?

สับปะรด มาจากใหน.......?

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สับปะรด
สับปะรด เป็นพืชที่นิยมปลูกทั่วประเทศไทย
สับปะรด เป็นพืชที่นิยมปลูกทั่วประเทศไทย
สับปะรด (ชื่อทางวิทยาศาตร์: Ananas comosus) เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่งที่มีต้นกำเนิดมาจากแถวๆทวีปอเมริกาใต้ ลำต้นมีขนาดสูงประมาณ 80-100 เซนติเมตร การปลูกก็สามารถปลูกได้ง่ายโดยการใช้หน่อหรือที่เป็นส่วนยอดของผลที่เรียก ว่า จุก มาฝังกลบดินไว้ และออกเป็นผล เปลือกของผลสับปะรดภายนอกมีลักษณะคล้ายตาล้อมรอบผล
แต่ละท้องถิ่นเรียกสับปะรดแตกต่างกันออกไปเช่น[1]
  • ภาคกลาง เรียกว่า "สับปะรด"
  • ภาคอีสาน เรียกว่า "บักนัด"
  • ภาคเหนือ เรียกว่า "มะนัด, มะขะนัด, บ่อนัด"
  • ภาคใต้ เรียกว่า "ย่านัด, ย่านนัด, ขนุนทอง"

[แก้]

ลักษณะของสับปะรด

ผลของสับปะรดระยะแรก
รูปลักษณะ ไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 90-100 ซม. มีลำต้นอยู่ใต้ดิน ใบเดี่ยวเรียงสลับ ซ้อนกันถี่มากรอบต้น กว้าง 6.5 ซม. ยาวได้ถึง 1 เมตร ไม่มีก้านใบ ดอกช่อออกจากกลางต้น มีดอกย่อยจำนวนมาก ผลเป็นผลรวม รูปทรงกระบอก มีใบเป็นกระจุกที่ปลาย
สับปะรดเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดี เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เมื่อเจริญเป็นผลแล้วจะเจริญต่อไปโดยตาที่ลำต้นจะเติบโตเป็นต้นใหม่ได้อีก และสามารถดัดแปลงเป็นไม้ประดับได้อีกด้วย
สับปะรดแบ่งออกตามลักษณะความเป็นอยู่ได้ 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือพวกที่มีระบบรากหาอาหารอยู่ในดิน หรือเรียกว่าไม้ดิน, พวกอาศัยอยู่ตามคาคบไม้หรือลำต้นไม้ใหญ่ ได้แก่ ไม้อากาศต่าง ๆ ที่ไม่แย่งอาหารจากต้นไม้ที่มันเกาะอาศัยอยู่ พวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นไม้ประดับ, และพวกที่เจริญเติบโตบนผาหินหรือโขดหิน

วันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ประวัติความเป็นมาของ สับปะรดไร่ม่วง | Beginning of Raimoung Pineapple

ความเป็นมาของ สับปะรดไร่ม่วง

        เริ่มแรกก็ต้องขอสวัสดีก่อนนะครับ วันนี้ผมจะมาเล่าถึงความเป็นมาของ สับปะรดไร่ม่วง
การเริ่มต้นของสับปะรดไร่ม่วงได้เกิดขึ้นจากมีบุคคลหนึ่งในหมู่บ้านไร่ม่วงชื่อ นาย แก้ว ศรีกระบุตร ซึ่งตอนนั้น นาย แก้ว ศรีกระบุตร มีอาชีพเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนบ้านไร่ม่วง(ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนมโนบุเรศบำุรุงการ) มีความชอบในด้านเกษตรกรรม จึงได้เสาะหา พืชพันธุ์ ผลไม้ ชนิดใหม่ๆที่ไม่มีในหมู่บ้านนำมาเพาะปลูกไว้ที่สวนหลังบ้าน และได้สั่งซื้อสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียจากภาคตะวันออกของประเทศไทย มาจำนวนหนึ่งซึ่งไม่มากนัก ขนส่งมาทางรถไฟ และทางเกวียน จนมาถีงหมู่บ้านการขนส่งจากภาคตะวันออกนั้นสมัยก่อนการเดินทางต้องใช้เวลามากพอสมควรจึงทำให้หน่อของสับปะรดเหี่ยวเฉามากๆเพราะโดนแดดเผาเป็นเวลานาน หลังจากที่ นาย แก้ว ได้รับหน่อสับปะรดจึงรีบนำไปปลูกไว้ที่สวนหลังบ้านเพราะคิดว่าหน่อสับปะรดจะตาย แต่ไม่ใช่อย่างที่คิด หน่อที่โดนแดดเผาใกล้ตายกลับมีความเจริญงอกงามได้เร็วมากหลังจากที่ปลูกไว้และคอยดูแลประมาณ 1ปี สับปะรดก็เริ่มออกดอกให้ผลผลิต เมื่อได้ชิมรสชาติ สับปะรดมีความหวาน หอม อร่อย และไม่กัดลิ้นเหมือนสับปะรดของภาคตะวันออก หลังจากนั้นจึงได้แจกจ่ายให้คนในหมู่บ้านนำไปทดลองปลูกคนละนิดคนละหน่อยเพาะว่าช่วงแรกๆหน่อของสับปะรดยังมีไม่มากนัก นับจากนั้นจนถึงปัจจุบันสับปะรดไร่ม่วงก็ได้เป็นที่รู้จักของหลายๆคนและติดใจในรสชาติของสับปะรดไร่ม่วง